DCP-L5510DN
คำถามที่พบบ่อย และการแก้ปัญหาเบื้องต้น |
เครื่องพิมพ์แสดงสถานะ Offline หรือ Paused
ขั้นตอน A: ตรวจสอบเครื่องเปิดใช้งานและไม่มีข้อความผิดพลาด
-
หากหน้าจอเครื่องของบราเดอร์ (ในที่นี้เรียกว่าหน้าจอ LCD) ว่างเปล่าหรือไฟ LED ดับ อาจเป็นไปได้ที่ไม่ได้เปิดเครื่อง ตรวจสอบเครื่องเพื่อดูว่าเครื่องได้ออกจากโหมดพักแล้ว
หากยังคงไม่มีข้อความใดๆที่หน้าจอ ให้ลองย้ายจุดเสียบเครื่องไปยังช่องเสียบอื่นที่สามารถใช้งานได้ปกติ และหากช่องเสียบนั้นที่อยู่บนผนังมีปุ่มสวิตช์ ให้กด ON
หมายเหตุ: หากคุณไม่สามารถเปิดเครื่องได้ ให้หยุดแก้ไขต่อจากนี้ และให้ไปแก้ไขในส่วนของปัญหาฮาร์ดแวร์แทน
- ตรวจดูว่าหน้าจอ LCD หรือไฟแจ้งเตือน LED ของเครื่องบราเดอร์ไม่ได้แสดงข้อผิดพลาดใดๆ เช่น "Paper Jam" หรือ "Ink/Toner Empty" เพราะหากปรากฏอยู่ ต้องแก้ไขข้อความที่แสดงในหน้าจอ LCD หรือไฟแจ้งเตือน LED หายออกไปจากหน้าจอก่อน ก่อนทำการแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาพิมพ์ไม่ได้
ขั้นตอน B: ตรวจสอบดูว่าเครื่องพิมพ์ได้เชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว
-
หากใช้สาย USB ตรวจสอบดูว่าได้เชื่อมต่อสาย USB เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์เรียบร้อยแล้ว
โดยเชื่อมต่อสายเข้ากับเครื่องโดยตรง ไม่ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อเสริม เช่น ฮับ -
หากใช้สายอีเทอร์เน็ต (สาย LAN) ตรวจสอบว่าได้เสียบสาย LAN เข้ากับเครื่องพิมพ์และเราเตอร์หรือแอคเซสพอยต์แล้ว
พิมพ์หน้ารายงาน Network configuration ออกมาตรวจสอบเลข IP แอดเดรส - หากใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Wi-Fi) ให้พิมพ์หน้า Network configuration ออกมาตรวจสอบเลข IP แอดเดรส
หากปัญหายังคงดำเนินอยู่ ให้ไปที่ ขั้นตอน C
ขั้นตอน C: ตรวจสอบหัวข้อระบบปฏิบัติการที่ตรงกับการใช้งานของคุณ
ระบบปฏิบัติการ Windows: ข้อ 1 ตรวจสอบเครื่องบราเดอร์ของคุณกำหนดเป็น default printer (ตั้งค่าเป็นเครื่องพิมพ์หลักในการพิมพ์) แล้ว
เปิดโฟลเดอร์ของเครื่องพิมพ์ และตรวจสอบมีเครื่องหมายถูกที่หน้าไอคอนเครื่องบราเดอร์คุณ
(Windows 11 ขึ้นไป)
ตรวจดูว่าได้เลือกชื่อเครื่องพิมพ์บราเดอร์ในการสั่งพิมพ์แล้ว
(Windows 8, Windows 10)
- เปิด Control Panel (คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีการเปิด Control Panel)
-
คลิก Hardware and Sound > Devices and Printers
(Windows 7)
คลิก Start > Devices and Printers
หากเครื่องหมายถูกไม่ได้อยู่หน้าเครื่องพิมพ์ ให้คลิกขวาที่ไอคอนบราเดอร์และเลือก Set as default printer
Windows: ข้อ 2 ลบข้อมูลงานพิมพ์ทั้งหมด
(Windows 11 ขึ้นไป)
- คลิก Start > Settings > Bluetooth & devices > Printers & scanners
- เลือกเครื่องบราเดอร์ของคุณ และคลิกที่ Open print queue
-
คลิก และเลือก Cancel all
(Windows 10 หรือก่อนหน้า)
คลิกขวาที่ไอคอนบราเดอร์และเลือก > See what's printing > Printer > Cancel All Documents
หาก Cancel All Documents เป็นสีเทาตามตัวอย่างด้านล่าง คลิก Open As Administrator ใส่รหัสผ่านสำหรับผู้ดูแลระบบและคลิก Yes
Windows: ข้อ 3 ตรวจสอบสถานะของเครื่องพิมพ์ที่หน้า Devices and Printers
ขั้นตอนนี้ใช้ได้จนถึง Windows 10
หากคุณใช้ Windows 11 ขึ้นไป ให้ไปที่ ข้อที่ 4
หากสถานะของเครื่องพิมพ์แสดง Offline
(Windows 10 หรือก่อนหน้า)
คลิกขวาที่ไอคอนเครื่องพิมพ์แล้วเลือก > See what's printing > Printer > Use Printer Offline (นำเครื่องหมายถูกออก)
หาก Use Printer Offline เป็นสีเทา ให้คลิก Open As Administrator ใส่รหัสผ่านและคลิก Yes
หากสถานะเครื่องพิมพ์เป็น Paused
(Windows 10 หรือก่อนหน้า)
คลิกขวาที่ไอคอนของเครื่องพิมพ์แล้วเลือก > See what's printing > Printer > Pause Printing (นำเครื่องหมายถูกออก)
หาก Pause Printing เป็นสีเทา ให้คลิก Open As Administrator ใส่รหัสผ่านและคลิก Yes
Windows: ข้อ 4 หากมี Copy ของไอคอนเครื่องบราเดอร์คุณ (ตัวอย่างเช่น Brother XXXX (Copy 1) ในรายการเครื่องพิมพ์
ไอคอนก๊อบปี้ของเครื่องพิมพ์คุณที่มีชื่อเหมือนกันนั้น อาจถูกสร้างมาจากกรณีดังนี้
- คุณเปลี่ยนช่องเสียบสาย USB ที่เครื่องคอมพิวเตอร์เมื่อเชื่อมต่อกับเครื่องบราเดอร์
- มีการติดตั้งไดรเวอร์ของเครื่องพิมพ์รุ่นเดียวกันหลายครั้ง
ไดรเวอร์ของไอคอนก็อบปี้เหล่านี้อาจทำงานไม่ถูกต้อง หากต้องการพิมพ์ให้เลือกเครื่องพิมพ์ที่คุณทราบว่าสามารถใช้งานได้
ในการตรวจสอบว่าเครื่องพิมพ์ใดสามารถใช้งานได้ ให้ทำตามด้านล่างนี้
- เปิดเครื่องบราเดอร์ เปิดเฉพาะเครื่องที่คุณต้องการใช้งาน (หากมีหลายเครื่อง)
- คลิกที่ Start > Settings > Bluetooth & devices > Printers & scanners
- เลือกเครื่องบราเดอร์ของคุณ
-
ตรวจดูที่ Printer status (สถานะของเครื่องพิมพ์)
หากสถานะเป็น idle หมายความว่าไดรเวอร์เครื่องพิมพ์นี้สามารถใช้งานได้ปกติ ให้เลือกไดรเวอร์เครื่องพิมพ์นี้หากต้องการพิมพ์
(เพิ่มเติม) หากต้องการเปลี่ยนชื่อเครื่องพิมพ์ ให้ทำดังนี้
- คลิก Printer properties
- เปลี่ยนชื่อเครื่องพิมพ์ในหน้าต่าง Printer Properties และคลิก OK
(Windows 7, Windows 8, และ Windows 10)
- เปิดเครื่องบราเดอร์ เปิดเฉพาะเครื่องที่คุณต้องการใช้งาน (หากมีหลายเครื่อง)
-
เปิดโฟลเดอร์เครื่องพิมพ์
(Windows 8, Windows 10)
เปิด Control Panel (คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีการเปิด Control Panel)
คลิก Hardware and Sound > Devices and Printers
(Windows 7)
คลิก Start > Device and Printers -
เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ไอคอนเครื่องพิมพ์ จนกระทั่งป๊อปอัพของสถานะเครื่องพิมพ์ปรากฏขึ้น
หากสถานะเป็น Offline แสดงว่าไดรเวอร์เครื่องพิมพ์ไม่ทำงาน เลือกไดรเวอร์เครื่องพิมพ์อื่นที่ไม่แสดง Offline(เพิ่มเติม) หากต้องการเปลี่ยนชื่อเครื่องพิมพ์ ให้ทำดังนี้
- คลิกขวาที่ไอคอนเครื่องพิมพ์
- คลิก Printer Properties
- เปลี่ยนชื่อเครื่องพิมพ์ในหน้าต่าง Printer Properties และคลิก OK
-
หากคุณต้องการพิมพ์โดยใช้เครื่องพิมพ์นี้เป็นประจำ ให้คลิกขวาที่ไอคอนเครื่องพิมพ์และเลือก Set as default printer เครื่องหมายถูกจะปรากฏอยู่ที่หน้าไอคอนเครื่องพิมพ์ และหากคุณต้องการพิมพ์ในครั้งถัดไป ชื่อเครื่องพิมพ์นี้จะปรากฏขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ
Windows: ข้อ 5 หากปัญหายังคงดำเนินอยู่ ...
ตรวจสอบหัวข้อปัญหาที่ตรงกับการใช้งานของคุณ
(สำหรับการเชื่อมต่อแบบ USB)
> คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีการแก้ไขปัญหาไม่สามารถพิมพ์ได้ผ่านสาย USB
(สำหรับการเชื่อมต่อแบบใช้สายอีเทอร์เน็ต (LAN))
> คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีการแก้ไขปัญหาไม่สามารถพิมพ์ได้ผ่านสายอีเทอร์เน็ต (LAN) (สำหรับ Windows/macOS)
macOS: หากปัญหายังคงดำเนินอยู่...
ตรวจสอบหัวข้อปัญหาที่ตรงกับการใช้งานของคุณ
(สำหรับการเชื่อมต่อแบบ USB)
> คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีการแก้ไขปัญหาไม่สามารถพิมพ์ได้ผ่านสาย USB
(สำหรับการเชื่อมต่อแบบใช้สายอีเทอร์เน็ต (LAN))
> คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีการแก้ไขปัญหาไม่สามารถพิมพ์ได้ผ่านสายอีเทอร์เน็ต (LAN) (สำหรับ Windows/macOS)